“สวนสัตว์เชียงใหม่” โต้ภาพเสือผอม นกตาย จนถูกวิจารณ์หนัก ยันดูแลสัตว์ทุกตัวดี
“สวนสัตว์เชียงใหม่” ตั้งโต๊ะแถลงโต้ภาพเสือผอม นกตาย จนถูกวิจารณ์หนัก ยืนยันดูแลสัตว์ทุกตัวดีตามวิถีธรรมชาติและระบบนิเวศ
จากกรณี ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่มีผู้ติดตามกว่า 1.3 ล้านคน โพสต์ภาพพร้อมบรรยายเรื่องราวต่างๆ ของสวนสัตว์เชียงใหม่ลงในทวิตเตอร์ เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา จนกลายเป็นกระแสไวรัลในโซเชียลมีเดีย มีผู้คนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด วันที่ 24 ก.ย. 2565 นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหาร และสัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้แถลงการณ์ชี้แจงถึงกรณีที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ดังกล่าว เข้ามาถ่ายภาพภายในสวนสัตว์เชียงใหม่แล้วนำไปโพสต์ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในส่วนงานดังกล่าวเป็นผู้ชี้แจง
กรณีแรก เป็นภาพในกรงเสือจากัวร์ที่ถูกระบุว่า เสือผอมมาก มีอาการอ้วก และน้ำในบ่อเน่า แห้ง สัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์เชียงใหม่ ระบุว่า เสือตัวดังกล่าวมีชื่อว่า “ข้าวปั้น” ภาพเสือที่ดูผอม โดยทั่วไปสรีรวิทยาของเสือจะผอม ปราดเปรียว ปัจจุบันน้ำหนักตัวของเสือข้าวปั้น อยู่ที่ 38 กิโลกรัม อยู่ในเกณฑ์ปกติ (เฉลี่ยที่ 30–40 กิโลกรัม) ไม่ได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ตามช่วงอายุของเสือ จึงถือว่า “ไม่ผอม”
ส่วนที่เสืออาเจียนนั้น เป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติ ซึ่งโดยปกติเสือจะมีการเลียขนตัวเองเพื่อทำความสะอาดขน เมื่อเสือเลียขนแล้วก็จะมีการขย้อนขนออกมา ดูคล้ายกับการอ้วก ซึ่งเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติ, กรณีน้ำในบ่อภายในส่วนจัดแสดงมีสีเขียว เป็นลักษณะของการเจริญเติบโตของแพลงก์ตอน พืชที่เป็นสาหร่ายสีเขียว จะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในน้ำจืด เกิดจากในน้ำมีสารอาหาร ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตใดๆ การเจริญเติบโตของสาหร่ายในน้ำเพิ่มขึ้น มิได้เป็นน้ำเน่าเสียแต่อย่างใด กรณีบ่อน้ำภายในส่วนจัดแสดงที่ไม่มีน้ำ อยู่ระหว่างการทำความสะอาดบ่อน้ำ และตากบ่อเพื่อฆ่าเชื้อโรคไว้ประมาณ 3-5 วัน แล้วทำการเติมน้ำใหม่
สำหรับกรณีพบซากนกตาย สวนสัตว์เชียงใหม่ได้ตรวจสอบตามภาพที่ปรากฏพบว่า เป็นลูกนกแขวกที่ตายอยู่ภายนอกกรงเลี้ยง ซึ่งนกดังกล่าวเป็นนกในธรรมชาติ อพยพย้ายถิ่นมาพักชั่วคราวในพื้นที่สวนสัตว์เชียงใหม่ที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอ่างเก็บน้ำซึ่งเป็นแหล่งอาหารของสัตว์นานาชนิด ซึ่ง “นกแขวก” เป็นนกอพยพที่ย้ายถิ่นฐานจากที่อื่นเพื่อตามหาแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์
ทุกปีในช่วงประมาณเดือน พ.ค. ถึงเดือนต.ค. จึงมีนกแขวกอพยพมาทำรังผสมพันธุ์และวางไข่ในพื้นที่สวนสัตว์จำนวนมาก และในธรรมชาติก็จะมีลูกนกไม่แข็งแรงสมบูรณ์ พ่อแม่นกจะคัดลูกนกที่ไม่แข็งแรงออกจากรัง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในระบบนิเวศวิทยา โดยสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้เก็บซากนกเพื่อตรวจหาโรคระบาด และนำไปทำลายเพื่อป้องกันการเกิดโรคระบาดในพื้นที่ ผลตรวจไม่พบการบ่งชี้การเกิดโรคระบาดแต่อย่างใด
ส่วนกรณีของซูอะควาเรียมร้อน กลิ่นเหม็น ตู้มีตะไคร่น้ำ มีสภาพอากาศร้อน เนื่องจากเครื่องปรับอากาศภายในเกิดชำรุดบางจุด อยู่ในระหว่างการปรับปรุง ซ่อมแซม ซึ่งคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ ได้มีมติอนุมัติงบประมาณปี 2566 จำนวน 26 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปรับปรุงแล้วและจะเริ่มดำเนินการในเดือน ต.ค.นี้ ส่วนกลิ่นเหม็นคาวที่เกิดขึ้น เพราะมีการให้อาหารปลาโดยใช้ปลาสดวันละ 2 ครั้ง ตามช่วงเวลาจึงอาจได้กลิ่นคาวเป็นระยะ ส่วนกรณีตู้ปลามีตะไคร่น้ำบางตู้ เป็นการทำสภาพแวดล้อมของสัตว์น้ำให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติ และเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมสัตว์ให้ดำรงชีวิตตามธรรมชาติ แต่ในส่วนตู้กระจกภายนอกและภายในได้มีการเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมา หากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้วพบเจอสิ่งไม่พึงประสงค์ หรือยังไม่มีการปรับปรุงแก้ไข ก็จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ หรือมาเขียนข้อแนะนำให้แก้ไขปรับปรุง แต่กรณีนี้ไม่ใช่ เพราะมีการเข้ามาถ่ายภาพและนำไปโพสต์ลงในโซเชียล จึงตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ต้องการอะไร เหตุใดไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ ซึ่งการแถลงข่าววันนี้เพื่อชี้แจงให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้เข้าใจภารกิจของสวนสัตว์เชียงใหม่ และการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกคนในการดูแลสัตว์หลายร้อยตัว บนพื้นที่กว่า 531 ไร่ และเพื่อตอบข้อสงสัยเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่หากว่าบุคคลดังกล่าวยังไม่เข้าใจ ก็สามารถสอบถามมาได้ที่สวนสัตว์เชียงใหม่
อย่างไรก็ตาม หากบุคคลดังกล่าวยังไม่เข้าใจ หรือไม่หยุดดำเนินการ ก็มีความจำเป็นต้องปรึกษากับฝ่ายกฎหมายขององค์การสวนสัตว์ต่อไป โดยเข้าใจว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ยังไม่เข้าใจทิศทางการทำงานของสวนสัตว์เชียงใหม่ จึงบอกว่าไม่ชอบและเกลียดสวนสัตว์เชียงใหม่ จึงได้เจาะจงมองในสิ่งที่เป็นภาพลบเพื่อไปนำเสนอ ขณะที่นักท่องเที่ยวทั่วไปที่บริสุทธิ์ใจเข้ามาท่องเที่ยวและพบเห็นสิ่งไม่เหมาะสมก็จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเพื่อแก้ไขปรับปรุง.